Family life 5

963 20 4
                                    



“จีมิน! คุณทำอะไรน่ะ!!!”
 


นี่เป็นคำแรกที่ออกมาจากปากของว่าที่คุณพ่อลูกสอง เมื่อเขากลับมาจากการไปซื้อของใช้จำเป็นที่ซูปเปอร์มาเก็ต แล้วพบว่า ภรรยาของเขากำลังถือตะกร้าผ้าที่จองกุกมองว่าเป็นอันใหญ่เดินออกมาจากหลังบ้าน ทั้งที่ตัวเองท้องห้าเดือน
 
จองกุกวางถุงอาหารสดอาหารแห้งที่ถือมาลงบนโต๊ะในห้องครัว ก่อนเดินไปคว้าตะกร้าผ้านั่นมาถือเองอย่างฉุนเฉียว
 
 
“อะไรกันคุณ แค่นี้เอง” จีมินว่าอย่างนั้น ก็ของที่ถืออยู่นั้น เป็นเสื้อผ้าชุดนอนของพ่อแม่ลูกที่ใส่เมื่อคืนนี้เอง
 
แต่ถึงจะว่าอย่างนั้น จีมินก็รู้สึกผิดอยู่ดี ที่ไม่ฟังคำของจองกุก เขาห้ามนักห้ามหนาแล้ว ว่าอย่ายกของหนัก และห้ามทำงานบ้านทุกอย่าง
 
 
“แค่ไหนก็ไม่ได้ ผมบอกคุณแล้วไง ว่าห้ามทำอะไรแบบนี้” จองกุกบ่นเป็นชุด ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ เขาจะห้ามเสียหน่อย คุณหมอก็บอกไว้ ว่าห้ามคนท้องยกของหนัก
 
 
จีมินอยากจะเถียงอีกสักหน่อย แต่พอเหลือบไปเห็นเด็กตาแป๋วที่ยืนถือของเล่นชิ้นใหม่ ที่คาดว่าน่าจะอ้อนให้พ่อซื้อให้ตอนพากันออกไปข้างนอกมองมา ก็ไม่อยากจะพูดอะไร
 
“อย่าเสียงดังสิ ... ลูก... ” จีมินบอกกับจองกุก ตาก็เบนไปทางเหตุผลของตน
 
 
จองกุกย่อตัวไปโอบไหล่ลูกชายที่ตอนนี้กำลังแสดงสีหน้าที่คนสมัยนี้เรียกว่าเป็นงง ก่อนอธิบายสิ่งที่คิดว่าลูกอาจจะเข้าใจผิด
 
“พ่อกับแม่ไม่ได้ทะเลาะกันนะครับ พ่อกับแม่แค่..”
 
จองกุกกำลังพูดอธิบายช้าๆ แต่กับถูกขัดจังหวะเสียก่อน
 
 
“คุณพ่ออย่าเสียงดังสิครับ เดี๋ยวน้องตกใจ ... โอ๋ บอมกยู ตกใจไหม คุณพ่อไม่ได้ดุเรานะ คุณพ่อคุยกับคุณแม่เฉยๆ” มือน้อยๆ ของลูกชายคนโตยื่นไปลูบท้องเปล่งของคุณแม่ เขาเชื่อว่าน้องของเขาจะได้ยินทุกอย่าง
 
จีมินลูบหัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างเอ็นดู จองกุกก็เคยทำให้คนท้องหงุดหงิดจนเผลอตวาดเสียงดังใส่นะ ตอนนั้นจองกุกเลยถือโอกาสบอกไม่ให้ทะเลาะกัน ไม่ให้พูดกันเสียงดัง
 
และแน่นอนว่าเด็กฉลาดอย่างยอนจุน ก็อยู่ตรงนั้นด้วย
 
 
 
 
“โอเคครับ พ่อขอโทษนะครับ ต่อไปนี้พ่อจะไม่เสียงดังแบบนี้อีกแล้ว .. แต่ตอนนี้ ยอนจุนพาคุณแม่ไปนอนกลางวันนะครับ น้องจะได้นอนด้วย ดีไหม”
 
สิ้นคำคุณพ่อ ยอนจุนก็จูงมือแม่ของเขาเข้าห้องไปอย่างทุกวัน บ่ายๆ แบบนี้ ทั้งเขา แม่ และน้อง ต้องการการพักผ่อนครับ
 
จองกุกมองคนที่เขารักที่สุดในชีวิตเดินไป ต่อไปคงเป็นการทำงานบ้านที่เขายังทำค้างไว้
 
ตั้งแต่ที่จีมินท้อง และตั้งแต่ที่จองกุกห้ามจีมินทำงานบ้านทุกอย่าง งานบ้านทุกอย่างก็ตกเป็นหน้าที่ของจองกุก
 
ใช่ จองกุกต้องทำทุกอย่างที่จีมินเคยทำ
 
 
 
 
 
 
 
 
จองกุกไม่เคยทำไม่ใช่หรอ
 
ไม่เคยทำก็ต้องทำ จองกุกยอมทำทุกอย่าง เพื่อลูก และเพื่อจีมิน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“จองกุก” เสียงหวานของว่าที่คุณแม่ลูกสองดังออกมาจากประตูทางเข้าห้องซักผ้า เจ้าของชื่อหันมองตาม
“ออกมาทำไม ทำไมไม่นอนล่ะ”
 
 
เพราะลูกชายหลับไปแล้ว และจีมินเองก็ยังไม่ง่วง จึงเดินออกมาหาคนที่คอยดูแลตัวเอง
จองกุกกำลังเตรียมซักผ้านวมผืนใหญ่ เขาอยากซักเอง ถ้าเป็นเสื้อผ้าต่างๆ จีมินขอให้ส่งซัก พร้อมบอกเหตุผลว่า ไม่ต้องทำเหมือนจีมินทุกอย่างหรอก
 
จีมินไม่ได้ต้องออกไปทำงานนอกบ้านเหมือนจองกุก
 
 
 
“เหนื่อยไหม” จีมินลากเก้าอี้ออกมานั่ง
 
“จะเหนื่อยได้อย่างไง” จองกุกเดินมาหยุดอยู่หน้าจีมิน
 
“ขอบคุณนะ ขอบคุณทุกอย่างเลย” ทำงานนอกบ้านมาเหนื่อยๆ แล้ว กลับมาก็ยังจะมาทำงานบ้านอีก เช้าก็ยังต้องคอยจัดการทุกอย่าง ทั้งเรื่องลูก เรื่องตัวเอง
 
“ถ้าขอบคุณก็อย่าดื้อทำนู้นทำนี่” มือสากลูบไหล่มน
 
“แหม แค่ท้องห้าเดือน” ไม่ได้ใกล้คลอดเสียหน่อย
 
 
หืม คนฟังตาโตเมื่อได้ยิน
 
 
 
“ห้าเดือนแล้วหรอ” จองกุกละมือที่เคยบีบไหล่เบาๆ เปลี่ยนมาลูบผมคนที่นั่งระดับเอวตัวเอง ก่อนออกแรงกดเล็กน้อย
 
จีมินรู้ทันทีว่าจองกุกกำลังคิดอะไร  เลยกำมือทุบหน้าท้องแกร่งไปที
 
ถึงจะห่างหายเรื่องอย่างว่าไปเพราะภรรยาท้อง แต่จองกุกก็ไม่เหงาหรือต้องโหยหิว จีมินของเขาคอยช่วยเหลืออยู่เสมอ
 
 
“ไปซักผ้าต่อเลยไป จีมินจะไปนอนแล้ว” หน้าหวานพยายามกลั้นหัวเราะ
 
เขินหนักมาก จองกุกรู้ เผลอเรียกชื่อตัวเองแบบนี้
 
 
“เดี๋ยวเดินไปส่ง”
“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง”
 
 
ฟังที่ไหน แขนยาวสอดเข้าเอว พยุงเมียตัวเองเดินไป
 
 
ใครว่าเว่อร์ก็ว่าเถอะ
 
 
 
 
เพราะเว่อร์จริง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไปกินข้าวกลางวันที่ไหนหรอคะ”
 
ซูจิน น้องเล็กของฝ่ายบุคคลเดินตรงเข้ามาหาหัวหน้าคนหนึ่งในทีมการตลาด
 
 
 
 
 
จอนจองกุก
 
 
 
 
อยู่ดีๆ หญิงสาวก็โผล่เข้ามาข้างๆ
 
“ว่าจะเดินไปหาข้าวกินที่โรงพยาบาลแทกังน่ะ” จองกุกตอบเพื่อนร่วมงานไป
 
สถานที่ดังกล่าวเป็นหนึ่งในธุรกิจของแทกังกรุ๊ป อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากตึกสำนักงานใหญ่ ช่วงเวลาเร่งรีบอย่างนี้ จองกุกมักจะไปหาอะไรกินง่ายๆ ที่นั่น
และที่วันนี้เขาต้องออกมาคนเดียว เป็นเพราะน้องๆ ในทีมต้องเร่งทำงานจนต้องสั่งอาหารไปกินที่ออฟฟิศแทน
 
 
 
“ไปด้วยได้ไหม ซูจินยังไม่รู้จะไปที่ไหนเลย”
 
 
 
เพราะไม่ได้อยู่ไกลกันนัก ทั้งสำนักงานใหญ่และโรงพยาบาล พวกเขาทั้งคู่จึงเดินไปพร้อมกัน อีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงแล้ว
 
 
“เห็นลูกน้องจองกุกส่งใบลามาให้ เขียนว่าไปโรงพยาบาล จองกุกเป็นอะไรหรอ”
ด้วยความสงสัย จึงถามออกไป หากไปโรงพยาบาลฉุกเฉินและส่งใบลาทีหลังเธอยังพอเข้าใจ แต่นี่ลาล่วงหน้าเพื่อไปโรงพยาบาล .. จองกุกของเธอมีนัดกับหมออย่างนั้นหรือ ป่วยเป็นอะไรหรือเปล่านะ
 
 
“จองกุกเลยหรอ .. ” จองกุกทวนสรรพนามที่ซูจินเรียก “เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเรียกกันอย่างสนิทสนมขนาดนั้นนะครับ คุณซูจิน”
 
 
คนฟังได้แต่ยิ้ม และก้มหน้าทำเขินอาย ก็จริงอย่างที่จองกุกว่านั่นแหละ แต่แหม อยู่กันแค่สองคน จะต้องจริงจังขนาดนั้นเชียว ไม่ใช่ว่าอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ ซูจินจะทำตัวไม่เหมาะสมเสียหน่อย ตำแหน่งของจองกุกอยู่สูงกว่าเธอเยอะ
 
พูดแรงๆ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะจองกุก
 
ถึงจะเหมือนโดนดุ แต่ซูจินกลับคิดว่าจองกุกอย่าจะแกล้งเธอเสียมากกว่า ถึงตอนเรียนจะไม่สนิทกัน แต่การเจอกันในครั้งนี้ จองกุกทั้งพูดและปฏิบัติกับเธออย่างดี
 
 
ดีจนรู้สึกดีกว่าเดิมเลยล่ะ
 
 
ปากบางคว่ำให้เล็กๆ เหมือนงอนให้กับคำพูดของชายหนุ่มก่อนหน้านี้ ก็แค่เหมือนนั่นแหละ ดูแล้วถ้างอนจริง จองกุกคงไม่ใช่คนประเภทที่ชอบง้อแฟนหรอก
 
 
 
 
“อ้อ แล้วอาทิตย์หน้าที่ลาไปโรงพยาบาล ผมพาจีมินไปหาหมอน่ะ มีนัดตรวจครรภ์” จองกุกตอบคำถามที่ยังไม่ได้ตอบ
 
 
 
ห๊ะ ... อะไรนะ
 
ลำพังแค่ได้ยินชื่อจีมิน ซูจินก็ชะงักไปแล้ว แล้วยิ่งได้ยินคำว่า ‘นัดตรวจครรภ์’ ก็ทำเอาขาเรียว ก้าวไม่ออกเลย
 
 
ซูจินมองแผ่นหลังกว้างของอดีตเพื่อนร่วมชั้นเดินห่างออกไป
 
 
 
จีมินท้อง .. อย่างนั้นหรอ..
 
 
 
 
 
ตอนนี้เธอไม่กล้าแม้จะตั้งคำถามด้วยซ้ำ ว่าจีมินท้องกับใคร
 
 
 
 
 
 
‘ไม่ไปหรอ’
 
 
 
 
ซูจินอ่านสายตาจากใบหน้าของชายหนุ่มที่หันมา ขาเรียวสับขาเดินตามทั้งที่สมองมีแต่ความสับสน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่ได้เจอจีมินนานมาก จีมินสบายดีไหม”
 
น้ำเสียงที่ดูเหมือนห่วงใยดังขึ้น ขณะที่ซูจินกำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวันกับจองกุก
 
ต่อให้เข้าข้างตัวเองมากๆ ความหวังก็แทบริบหรี่ เป็นไปไม่ได้หรอกที่เด็กในท้องจีมินจะไม่ใช่ลูกจองกุก
 
แต่ก็ไม่แน่นะซูจิน ... จีมินอาจจะท้องกับคนอื่นก็ได้
 
 
 
 
 
“สบายดี เรากำลังจะมีลูกคนที่สองกันน่ะ” จองกุกตอบทั้งที่ตายังจับจ้องอยู่แต่กับอาหารตรงหน้า
 
 
ดี ดีที่ไม่ได้อ้อนวอนพระเจ้า เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ซูจินอาจจะไม่นับถือพระองค์อีกเลย
 
เด็กในท้องจีมินเป็นลูกจองกุก
 
 
.. และไม่ใช่คนแรก แต่เป็นคนที่สอง
 
 
 
 
แม้จะรู้สึกผิดหวังนิดๆ แต่สิ่งที่ซูจินแสดงออกไปนั้นเป็นแบบที่ไม่ได้ทำให้คู่สนทนาอึดอัด
 
“อ๋า ลงเอยกันจนได้สินะ ซูจินเห็นตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว จีมินดูชอบจองกุกมากเลยนะ แบบนี้จีมินต้องมีความสุขมากแน่เลย”
 
 
จองกุกเงยหน้ามามองคนที่ยิ้มสดใส
 
 
 
“ถ้าตอนเรียน.. รู้สึกจะมีแค่ผมนะที่ชอบเขา ตอนนั้นจีมินเขาไม่ได้มารู้สึกอะไรแบบนั้นหรอก .. ส่วนเรื่องที่ตอนนี้มีความสุข ผมก็หวังว่าเขาจะมีความสุขมากกว่าผม เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“จ๊ะเอ๋ คนเก่งของพ่อ วันนี้พ่อไม่อยู่ อย่าแกล้งคุณแม่นะครับ”
 
 
จองกุกพูดกับลูกชายอีกคนที่ยังอยู่ในท้องอย่างเป็นตุเป็นตะ วันนี้เป็นอีกวันที่เขาต้องเสียสละวันหยุดให้กับกิจกรรมของเจ้านาย จองกุกไม่มีปัญหากับการที่ตัวเองต้องไปกินข้าว ตีกอล์ฟ หรือเที่ยวต่างจังหวัดกับเจ้านายหรอก ถ้าตอนนี้เมียของเขาไม่ได้ท้องแปดเดือนน่ะ
 
 
 
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวเขาจะรอ” จีมินหมายถึงบรรดาหัวหน้าของจองกุกน่ะ เห็นจองกุกบอกว่าต้องขับรถไปเกือบสองชั่วโมงเลย
 
จองกุกละมือที่สัมผัสหน้าท้องเนียน แล้วหันมาสนใจเด็กที่นั่งรอให้พ่อตัวเองพูดคุยด้วยเหมือนกัน
 
 
“ลูกชายพ่อคนนี้ก็เป็นเด็กดีนะครับ อย่าดื้อคุณแม่ คุณแม่เรียกใช้อะไรให้ใช้ง่ายๆ นะครับ” ถึงประโยคจะดูฟังยากแต่ยอนจุนก็เข้าใจ ใช่สิ พ่อชอบพูดอะไรยากๆ แบบนี้ตลอดแหละ
 
 
“ครับ”
 
 
“ที่รัก คุณก็ด้วย .. แปดเดือนแล้วนะครับ” จองกุกพูดจาหยอกล้อ สิ่งที่เขาสัมผัสได้คืออารมณ์แปรปรวนของคุณแม่ หากพูดอะไรรุนแรงก็กลัวว่าจะไม่สบายใจ
 
“รู้แล้วน่า จะไม่ทำทุกอย่างที่คุณห้ามหรอก” จีมินที่นั่งเอนหลังอยู่กลางโซฟาบอก
 
“งั้นไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจะรีบกลับ มีอะไรโทรมานะ ... ยอนจุนอย่าดื้อแม่นะครับ”
 
 
ย้ำอยู่นั่น แต่ถ้าไม่เป็นห่วงก็คงไม่พูดหรอก ใช่ไหม
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“มากันแล้วหรอ” กูรึม หัวหน้าหนุ่มใหญ่วัยกลางคนทักลูกน้องที่เพิ่งเดินทางมาถึงหลังเขาเล็กน้อย
 
วันนี้มีผู้บริหารหลายท่านที่ออกมาทำกิจกรรมที่พวกเขาถนัดกัน แม้จองกุกจะเป็นเพียงพนักงานตำแหน่งเล็กๆ เมื่อเทียบกับคนอื่น แต่เจ้านายหลายคนก็ถูกใจการทำงาน รวมถึงนิสัยของเขา จึงเป็นเหตุผลที่เขามักจะได้รับเชิญให้มาอยู่ในสังคมระดับนี้
 
 
“ขอโทษที่มาช้านะครับ”
 
“ไม่ๆๆ พวกฉันเพิ่งมาถึงไม่กี่นาทีนี้เอง” หัวหน้าฝ่ายบริหารคนหนึ่งปฏิเสธ
 
 
“ซูจินล่ะ นั่งรถนาน เหนื่อยไหม” กูรึมถามหญิงสาวที่ร่วมเดินทางมากับจอนจองกุก
 
“ไม่เลยค่ะ จองกุกเป็นคนขับ น่าจะเหนื่อยกว่า”
 
 
หญิงสาวพูดยิ้มแย้ม แต่คนที่ถูกกล่าวถึงอย่างจองกุกกลับเบือนหน้าหนี ดูเหมือนซูจินจะไม่รู้ตัวนะ ว่าพูดอะไรออกไป
 
 
ทุกคนตรงนั้น สัมผัสได้ถึงความสนิทสนมของหนุ่มสาวที่อายุไล่เรี่ยกัน ถึงจะดูออกว่ามีแต่ซูจินที่ชอบจองกุกฝ่ายเดียวก็เถอะ
 
 
ไม่รู้ว่าซูจินไปทำอีท่าไหนนะ ถึงได้มาสนามกอล์ฟทั้งที่ไม่มีใครชวนได้ ... เข้าทางใครอีกนะ รอบนี้
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เวลาล่วงเลยมาจนถึงบ่ายคล้อย บ้านจีมินกลับมาครึกครื้น เมื่อลูกชายคนโตตื่นขึ้นมาอย่างสดใส จีมินนั่งถักเสื้อไหมพรมคุณภาพดีที่เพื่อนของจองกุกซื้อมาฝากจากต่างประเทศ
 
อึนอูรู้มาว่าจีมินกำลังถักเสื้อผ้า ก็เลยไปหาซื้อไหมพรมมาฝากน่ะ
 
 
เกือบชั่วโมงแล้วที่จีมินรู้สึกแปลกๆ กับความเจ็บตรงหน้าท้อง เหงื่อเริ่มผุดเป็นเม็ดใหญ่ทั้งที่อากาศก็เย็นสบาย
 
คุณหมอเคยบอกแล้วว่าช่วงก่อนคลอดหนึ่งเดือนจะมีอาการเจ็บท้องแบบนี้ เป็นปกติ ไม่ต้องกังวล
 
 
ว่าแต่ ... ปกติจริงหรอ
 
 
 
 
 
“ยอนจุน..” จีมินเรียกลูกชายที่นั่งจ้องการ์ตูนหน้าโทรทัศน์เสียงเรียบ
 
 
“...”
 
 
 
 
“ยอนจุนครับ” เสียงดังเพิ่มมาอีกหน่อย แต่ก็ไม่ได้น่าตกใจ หรือตื่นเต้นจนทำให้ลูกชายหันมาสนใจได้
 
 
 
 
“....”
 
 
 
 
 
“ยอนจุน!”
 
 
 
“ครับแม่!!” เด็กเกือบหกขวบหันมาตามเสียงเรียกของคนเป็นแม่
 
 
“หยิบโทรศัพท์ให้แม่หน่อยครับ” จีมินพยายามพูดเสียงเรียบให้ดูเป็นปกติ ยอนจุนรีบไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ห่างออกไปมาให้แม่ตัวเอง
 
“แม่ปวดท้องหรอครับ” ยอนจุนถามเพราะเห็นแม่เขาเอามือจับท้องไว้ แต่ถึงกระนั้นจีมินก็ยังแข็งใจ
 
 
เหมือนปวดท้องตอนใกล้คลอดยอนจุนเลย
 
 
มือเรียวปัดหน้าจอเลื่อนหารายชื่อที่คุ้นเคย แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะปิดหน้าจอนั้นไป
 
ไม่ได้ปวดท้องคลอด แค่ปวดจนรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่อยากรบกวนเวลาของจองกุก ถ้าจองกุกรู้ว่าจีมินคิดอย่างนี้ มีหวังโดนด่าแน่ๆ
 
 
หรือจะโทรดีนะ
 
 
 
 
ครืด ครืด
 
 
 
ไม่ทันได้ตัดสินใจ อุปกรณ์สื่อสารในมือก็ส่งสัญญาณว่ามีคนโทรเข้า
 
 
 
“สวัสดีครับ.. ...พี่หมอคิม”
 
 
คิมซอกจิน คุณหมอผู้ที่ได้ดูแลคุณแม่จีมินตั้งแต่ครั้งที่ตั้งท้องยอนจุน โทรมาถามสารทุกข์สุกดิบตามประสาคุณหมอประจำตัว อีกทั้งขณะนี้ เขายังได้มาทำธุระใกล้บ้านจีมินอีกด้วย
 
ไหนๆ ก็มาแถวนี้แล้ว คุณหมอจึงโทรหาเพื่อถามไถ่สักหน่อย
 
 
“สบายดีไหมจีมิน”
 
 
“สะ สบายดีครับ พี่หมอ” จีมินตอบเสียงนิ่ง
 
 
“ทำไมเสียงเป็นงั้นจีมิน” คุณหมอจับความผิดปกติของคนไข้ในความดูแลได้
 
“อืม ปวดท้องนิดหน่อยน่ะครับ” จีมินตอบไปเหมือนได้ไปหาคุณหมอที่โรงพยาบาลแล้ว
 
“ปวดนานหรือยัง”
 
“เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วปวดน้อยกว่านี้ครับ แต่ตอนนี้..” จีมินเงียบไปเพราะรู้สึกปวดหนึบๆ ขึ้นมา
 
“คุณจองกุกล่ะ” คิมซอกจินถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
 
“ไม่อยู่ครับ”
 
 
“โอเค จีมิน พี่อยู่แถวบ้านเราพอดี เดี๋ยวพี่ไปหานะ”
 
 
 
พูดจบ คุณหมอก็วางสายไป จีมินลูบหัวลูกชายเพื่อปลอบ
 
“แม่ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นหรอกนะครับ .. ยอนจุนไม่ต้องร้องนะ”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ถ้าให้เลือกระหว่างเดินเล่นสวยๆ ที่ห้างใจกลางกรุง กับสนามกอล์ฟที่แดดร้อนฉ่า คนรักสบายอย่างซูจินต้องเลือกความสบายเช่นห้างกลางกรุงแน่นอน
 
แต่ทำไงได้ ที่นั่นไม่มีจองกุกนี่นา
 
 
 
ซูจินถือร่มคันใหญ่ของตัวเองยืนใต้เงาร่มไม้ ไม่ใกล้ไม่ไกลจุดที่หนุ่มๆ นักธุรกิจกำลังหวดลูกกอล์ฟโชว์วงสวิงของตัวเอง
 
เธอได้ยินหัวหน้าสาวแก่ของตัวเองพูดคุยกับผู้จัดการคนอื่นว่าอาทิตย์นี้มีนัดกันไปตีกอล์ฟที่สนามใหม่ ซูจินไม่รู้หรอกว่าคนที่เธอสนใจจะได้ไปด้วยไหม แต่ก็ขอพาตัวเองให้ได้ไปกับพวกเขาก่อน
 
 
 
โอ๊ะ จองกุกก็ไปด้วยหรอ งั้นซูจินขอติดรถไปด้วยนะ ไม่อยากขับรถเองน่ะ
 
 
 
 
 
 
กริ๊ง กริ๊ง
 
 
พอคิดอะไรเพลิน ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าถือของตัวเอง มือบางล้วงเข้าไปหยิบเครื่องที่เป็นต้นเสียงออกมา
 
 
 
 
 
ภรรยา
 
 
 
 
 
 
“จีมินหรอ ฮึ” ซูจินพูดกับตัวเอง
 
 
เธอปล่อยให้โทรศัพท์เครื่องแพงดังอยู่อย่างนั้น ...
 
 
จนกระทั่งสายตัดไป
 
 
 
 
ขาเรียวพาตัวเองออกจากเงาร่มไม้ ตรงไปยังที่ที่กลุ่มชายทั้งหนุ่มทั้งแก่ยืนอยู่
 
ผู้อาวุโสคนหนึ่งถาม
 
“มีอะไรหรือเปล่า หนูซูจิน”
 
 
จองกุกเองก็หันหลังกลับไปมอง
 
 
 
“คุณจองกุกลืมโทรศัพท์ไว้ในรถน่ะค่ะ ซูจินหยิบมาด้วย ว่าจะคืนแต่ก็ลืม...”
 
แล้วอย่างไงเอ่ย หน้าทุกคนถามแบบนี้ ถืออยู่ให้ได้ตั้งนาน
 
 
 
“ดูเหมือนภรรยาคุณโทรมาน่ะค่ะ สายตัดไปแล้ว ซูจินก็ไม่กล้ารับให้” หญิงสาวพูดดี
 
ผู้ใหญ่ทุกคนที่ได้ยินต่างคิดว่าที่ซูจินทำน่ะ ถูกแล้ว ... เป็นผู้หญิง จะไปรับสายให้สามีคนอื่นทำไม
 
 
จองกุกรีบถอดถุงมือก่อนยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์ที่เพื่อนร่วมงานยื่นมา เขาพยักหน้าเล็กน้อย หันออกไปกดเบอร์โทรของคนที่เขาไม่ได้รับสาย
 
 
 
“จีมิน คุณมีอะไรหรือเปล่า” ถามไปเสียงเรียบ แต่ใจค่อนข้างร้อนรน ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญ จีมินคงไม่โทรมา
 
 
-ปวดท้องน่ะ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล-
 
 
“โรงพยาบาลหรอ!!”
 
 
เพราะจองกุกเองไม่ได้เดินออกไปไกล เสียงตกใจของเขาทำให้ทุกคนได้ยิน
 
 
“เดี๋ยวผมรีบไป คุณรอก่อนนะ”
 
 
 
 
“รีบไปเถอะ” กูรึมบอกเมื่อลูกน้องตัวเองหันมา
 
 
“ขอโทษที่ต้องกลับก่อนนะครับ .. ผมขอตัวนะครับ” จองกุกลาออกไปอย่างมารยาทดี
 
 
 
แต่ก็ไม่วายหันกลับมามองหน้าซูจิน
 
เรื่องครอบครัวก็สำคัญ แต่ความรับผิดชอบ ก็สำคัญ
 
 

 
 


หัวหน้างานมากประสบการณ์รู้ความคิดของลูกน้องคนโปรดทันที เพราะเป็นคนดีแบบนี้ไง ใครก็รัก
 
“ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวฉันไปส่งซูจินเอง”
 
“ขอบคุณครับ”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“จองกุกเขาดูรักแฟนเขาดีนะ” หัวหน้าผู้บริหารคนหนึ่งเอ่ยขึ้น แฟนที่ว่าก็หมายถึงภรรยานั่นแหละ
 
“ครับ” กูรึมเอ่ยรับคำชื่นชมแทน ก่อนหันไปพูดกับซูจิน คนที่ชอบเสนอตัวไปนั่นไปนี่ด้วยทุกครั้ง และทุกที่ ที่จองกุกไปกับเขา “..ซูจินอายุเท่าจองกุกนี่ มีแฟนหรือเปล่า”
 
 
“ไม่มีหรอกค่ะ หายากจะตาย ผู้ชายดีๆ” หญิงสาวตอบแบบขำๆ ตายังคงมองไปยังแผ่นหลังกว้างที่ห่างออกไป
 
 
“หนูซูจินชอบแบบไหนหรอ เผื่อฉันแนะนำได้” ผู้อาวุโสคนหนึ่งถามอย่างเอ็นดู
 
“อืมมม แบบไหนหรอคะ ... ก็คงใครสักคน ที่เหมือนจองกุก”
 
 
 
“....”
 
 
 
 
 
“ใครสักคนที่เหมือนจองกุกน่ะ ได้ ... แต่จองกุกน่ะ ไม่ได้ .. รู้ใช่ไหม” กูรึมพูดขัดอย่างรู้ทัน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบปี ทำไมจะดูไม่ออก
 
 
 
เด็กคนนี้เป็นเด็กน่ารัก มีมารยาท จนเขาเองนึกเอ็นดู .. ไม่อยากให้ทำหรือคิดอะไรไม่ดี
 
 
 
 
ซูจินเองก็เข้าใจความหมายที่กูรึมพูด ผิดชอบชั่วดี เธอรู้ทุกอย่าง
 
 
 
 
 
แต่จะทำได้หรือเปล่านั้น























TalK :



จีมินมีแค่ลูกกับจองกุกนะ










/// 




















[END] Grow KookminWhere stories live. Discover now