รักข้าบ้างมั้ย ?

104 2 0
                                    

กลิ่นฟีโรโมนของควีนหายไปแล้วทำให้ลูกน้องบริวารของราชาแวมไพร์ตามตัวยากยิ่งกว่าเดิม
ส่วนทางเผ่าแวร์วูล์ฟก็ได้หยุดความบ้าคลั่งไปอีกครั้งนึงแต่ยังมีบางพวกที่เริ่มออกเดินทางแยกจากเผ่าไปเพื่อตามหาควีน แม้จะต้องเสี่ยงกับพวกฮันเตอร์ก็เถอะ แต่ถ้าได้ตัวควีนมาก็ถือว่าเป็นอะไรที่สุดของชีวิตแล้ว

บนยอดผาสูงมีชายหนุ่มร่างเพรียวยืนอยู่คนเดียว ผมสีดำยาวปะบ่า ดวงตาสีฟ้าอ่อน ปลายจมูกโด่งๆของเขากำลังดมกลิ่นที่พัดไปตามกระแสลมหนาวนั้น

"ไม่ได้อยากปะทะกับพวกผีดูดเลือดนั้นเลย"

"เจ้ามันก็เป็นซะแบบนี้ตลอดแหละนะ โลกิ"

ชายหนุ่มร่างที่มีกายหนากว่าสูงกว่าและสีผมเป็นสีผมบลอนด์ถูกมัดรวบๆไว้ได้เดินเข้ามา

"หลีกเลี่ยงการต่อสู้ตลอดจนข้าชักจะคิดว่าเจ้าคือน้องชายข้าจริงหรือไม่"

"ก็ไม่ใช่ไง ถึงจะมีพ่อเดียวกันแต่ก็คนละแม่ อีกอย่างใครมันจะไปบ้าพลังแบบท่านได้ตลอดทุกวันเวลา"

โลกิกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย

"ให้มันได้แบบนี้ซิ"

"แต่ข้าก็ทำให้พวกท่านชนะมาเกือบตลอด พวกท่านต่างหากที่ต้องขอบคุณสมองและความคิดของข้า"

ชายหนุ่มพูดเสร็จก็กระโดดลงไปจากยอดผา ลงไปพื้นที่ข้างล่างเพราะขืนอยู่กันแบบนี้คงได้แต่ต่อปากต่อคำอีก มันน่าเบื่อหน่าย
ธอร์คือบุตรคนโตของหัวหน้าเผ่าแวร์วูล์ฟในทิศเหนือ ส่วนทางทิศใต้เป็นของ สตีฟ โรเจอร์

อัลฟ่าเหนืออัลฟ่าในยุคสมัยนี้มีอยู่ 3 คน คือ ธอร์ โลกิ และ สตีฟ แต่มันอาจจะมีมากกว่านั้นแค่ยังไม่เปิดเผยตัวตน

ในช่วงที่ฤดูหนาวเข้ามาปกคลุมนานถึง 4 เดือน ช่วงต้นเดือนแรกเผ่าของธอร์ได้เจอกลิ่นหอมที่ลอยมาตามลม สัญชาตญาณมันได้กระตุ้นทุกอย่างว่านี้คือกลิ่นของควีนแน่แท้ แต่แล้วกลิ่นก็หายไป
อย่างที่บอกแต่แรกว่าบางส่วนก็ออกเดินทางแยกจากกลุ่มไปเพื่อออกตามหา คงจะเป็นหมู่บ้านของมนุษย์ไม่ก็เมืองหลวง
แต่โลกิไม่ได้คิดแบบนั้น
ถ้ามีกลิ่นฟิโรโมนของควีนลอยมาตามลมแบบนี้แสดงว่าควีนได้ออกจากที่กำเนิดมาแล้ว
ควีนเป็นปิศาจที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ เพราะแบบนั้นสิ่งที่อาศัยอยู่ได้ดีคือบ้านร้าง ไม่ก็กระท่อมเก่าๆ ที่ไม่มีมนุษย์แถวนั้นอาศัยอยู่ โลกิได้ออกตามหาเองด้วยความเชื่อมั่นที่มี

[AU_Omegaverse]True BloodWhere stories live. Discover now